บทที่ 4 คนไม่สำคัญ
เสียงพูดของคนที่กำลังนำบางอย่างมารัดที่ ต้นแขน บวกกับสีของเพดานห้องที่ไม่คุ้นตา ทำให้ตากลมโต ที่เพิ่งปรือขึ้นต้องหลับลงอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวต้องการทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พสิกาพยายามนึกว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน จำได้ว่าเธอ ปวดท้องอย่างหนัก จึงรีบเดินออกมาจากห้องของผู้ชายใจร้ายคนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
"เป็นยังไงบ้างคะ ยังปวดท้องอยู่ไหม"
คำถามของผู้หญิงที่ยืนถือแฟ้มอยู่ข้างเตียง ทำให้ หญิงสาวแน่ใจว่าตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล
"ยังปวดอยู่ค่ะ ฉันเป็นอะไรเหรอคะ" ถามเพราะอยากรู้สาเหตุของอาการปวดท้องที่เกิดกับตัวเอง
"คนไข้พักผ่อนน้อย มีอาการเครียดสะสม บวกกับปวดท้องประจำเดือน พอทุกอย่างมันมารวมกัน อาการเลยหนักขึ้น
น่ะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว รอน้ำเกลือหมดถุงก็ กลับบ้านได้แล้วค่ะ"
คุณหมอสาวตอบพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คำตอบของหมอทำให้พสิกาหายใจได้ทั่วท้อง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่ได้ท้องอย่างที่กังวล
"ฉันมาโรงพยาบาลได้ยังไงคะ" ถามเพราะอยากรู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครเป็นคนพาเธอมา คงไม่ใช่ปภังกร เพราะ จำได้ว่าเธอออกมาจากห้องเขามาแล้ว
"หมอก็ไม่ทราบค่ะ หมอรู้แค่ว่าคนไข้ถูกส่งเข้ามาให้ ห้องฉุกเฉินตอนตีสี่กว่า ๆ ถ้ายังไงขอซักประวัติคนไข้ตอนนี้เลยนะคะ"
คำตอบของคุณหมอ ทำให้หญิงสาวหลับตาลง ไม่ใช่เขาจริง ๆ หรือต่อให้เป็นเขา เขาก็คงแค่มาส่งแล้วกลับไป เธอไม่ได้มีความหมายกับเขาเลยสักนิด
หลังจากตอบคำถามพยาบาล พสิกาก็ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือที่อยู่หัวเตียงมาเปิดดู ของมีค่าทุกชิ้นยังอยู่ครบ หยิบมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะต้องถอนใจเมื่อ มีสายเรียกเข้าเป็นร้อย ๆ สาย สายจากพ่อ จากแม่นม จาก แม่ครัวที่ร้านอาหาร และจากเพื่อน ๆ อีกหลายสาย แต่ไม่มีสายจากปภังกรเลยสักครั้ง เธอกำลังคิดอะไรอยู่ คิดว่าเขาจะโทร. มาหาอย่างนั้นหรือ มันก็เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา เขาจะโทร. มาเฉพาะเวลาที่ต้องการเรียกเก็บดอกเบี้ย ยังไม่ชินอีกหรือ...
มุมปากบางยกยิ้มเมื่อต้องการเย้ยหยันตัวเองที่บังอาจ คิดเรื่องที่ไม่ควรคิด มือถือถูกวางลงข้างเตียงหลังจากเจ้าของกดปิดเครื่อง เพราะเธอยังไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น
ปภังกรมองนาฬิกาข้อมือเป็นครั้งที่ร้อย วันนี้การประชุมกินเวลานานกว่าทุก ๆ ครั้ง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท มีการทุจริตเกิดขึ้น เมื่อคืนมีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยข้อมูลภายในห้องทำงานของเขา แต่ถูก รปภ. จับได้เสียก่อน เขาจึงต้องรีบไปบริษัท ทุกอย่างช่างประจวบเหมาะ เขาได้รับโทรศัพท์ตอนที่พาพสิกาไปโรงพยาบาล จึงต้องทิ้งเธอไว้ที่นั่น เพราะต้องรีบกลับไปสะสางเรื่องที่บริษัท จนป่านนี้ก็ยังไม่ลงตัว คนร้าย ถูกจับส่งตำรวจแล้วก็จริง แต่ห้องทำงานเขาไม่ใช่ที่ที่ใครจะ เข้าไปได้ง่าย ๆ งานนี้น่าจะมีเกลือเป็นหนอน เพราะโครงการ ที่เขากำลังทำมีมูลค่ามหาศาล รอให้คนร้ายสารภาพก็จะรู้เองว่าใครกันที่บังอาจมาล้วงคองูเห่าอย่างเขา
มือถือเครื่องบางถูกหยิบขึ้นมาต่อสาย แต่กลับได้ยินเพียงเสียงบริการฝากหมายเลขโทร. กลับ พสิกาปิดมือถืออย่างนั้นหรือ... เธอบังอาจขัดคำสั่งเขา ตั้งแต่ที่ตกลงกันวันนั้น เรื่อง มือถือก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในสัญญา เธอต้องรับสายเขาทุกครั้ง เส้นเลือดที่ข้อมือปูดโปน เมื่อมือหนากำมือถือในมือไว้แน่น ความโมโหเกิดขึ้นเมื่อปลายสายบังอาจขัดคำสั่งของเขา
ร่างสูงก้าวออกจากห้องทำงานเมื่อเคลียร์ทุกอย่างจบ โรงพยาบาลคือปลายทางที่เขาต้องไป ทั้ง ๆ ที่บอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจเธอ แต่ขาก็สั่งให้เขาก้าวมาจนถึง
"คุณพสิกาออกจากโรงพยาบาลไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วค่ะ"
คำตอบของพยาบาล ทำให้กรามแกร่งบดเข้ากันจนเป็นสันนูน ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว แต่ไม่โทร. บอกให้เขารู้ สักคำ แถมยังปิดเครื่องหนี เขาควรลงโทษเธอยังไงดี ให้สมกับที่เธอทำให้เขาเสียเวลา และเป็นห่วงทั้งวัน ชายหนุ่มสะดุดความคิดตัวเอง เขาไม่ได้เป็นห่วงเธอสักหน่อย สิ่งที่เขาห่วงคือเงินต่างหาก เธอยังใช้หนี้เขาไม่หมด ถ้าตายไปแล้วใครจะ ใช้หนี้เขา
'บริการฝากหมายเลขโทร. กลับ'
"โธ่โว้ย!" มือแกร่งฟาดลงบนพวงมาลัยรถอย่างแรง เมื่อจนป่านนี้ก็ยังติดต่อเธอไม่ได้
"อย่าให้เจอตัวนะ ผมจะเอาให้หนักเลย"
ชายหนุ่มขู่อาฆาตก่อนจะขับรถไปตามทางด้วยอารมณ์โกรธกรุ่น คิดว่าจะหนีเขาพ้นอย่างนั้นหรือ ต่อให้มีปีกก็หนี ไม่พ้น 28 ล้านที่เหลือโอนเข้าบัญชีเขาหมดเมื่อไร นั่นต่างหากคือวันที่เธอจะได้รับอิสรภาพ
.................................................................................................
สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน มณีภัทรสรมีนิยายมาสำเสนอค่าาา
รอยรักพันธะร้าย เป็นนิยายในชุด รักไม่ตั้งใจ มีนิยาย 3 เรื่องดังนี้ค่ะ
รอยรักพันธะร้าย เธอคือรักที่(ไม่)ตั้งใจ เลห์ลวงวิวาห์ร้าย(ลงให้ต่อจาก รอยรักพันธะร้าย)
ฝากผลงานของมณีภัทรสรด้วยนะคะ
